สังคม เศรษฐกิจ ท้องถิ่น
รองผู้ว่าฯ บุรีรัมย์ พร้อม ผู้บัญชาการมณฑล พาณิชย์จังหวัดบุรีรัมย์ ออกตรวจเครื่องวัดความชื้น และเครื่องชั่งน้ำหนักโรงสีข้าว
เขียนโดย ดร.สุวัฒน์ อุ่นทานนท์
รองผู้ว่าฯ บุรีรัมย์ พร้อม ผู้บัญชาการมณฑล พาณิชย์จังหวัดบุรีรัมย์ ออกตรวจเครื่องวัดความชื้น และเครื่องชั่งน้ำหนักโรงสีข้าว พร้อมขอความร่วมมือผู้ประกอบการปิดป้ายราคาให้ชัดเจน เพื่อป้องกันเอาเปรียบเกษตรกร วันนี้ (7 พ.ย.59) นายประภาส รักษาทรัพย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมด้วย พลตรี เดชอุดม นิชรัตน์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 26 นายสุทธิศักดิ์ พรหมบุตร พาณิชย์จังหวัดบุรีรัมย์ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ผู้แทน ธกส. และผู้แทนกลุ่มเกษตรกร ร่วมตรวจสอบโรงสีข้าว เจริญกิจพูนผล อำเภอเมืองบุรีรัมย์ เพื่อสอบถาม ปริมาณข้าวเปลือกในโกดัง วิธีการตรวจวัดค่าความชื้น และแนวทางในการ รับซื้อข้าวเปลือกจากเกษตรกร ป้องกันปัญหา การรับซื้อข้าวที่ไม่เป็นธรรม ตามนโยบายของรัฐบาล โดยเน้นตรวจคุณภาพเครื่องชั่งตวงวัด และเครื่องชั่งน้ำหนัก ซึ่งต้องได้รับการตรวจรับรองมาตรฐานจากสำนักงานสาขาชั่งตวงวัด เขต 2 – 5 สุรินทร์ พร้อมทั้งขอความร่วมมือผู้ประกอบการโรงสีให้ปิดป้ายแสดงราคารับซื้อข้าวให้ชัดเจน เพื่อป้องกันการเอาเปรียบชาวนา โดยทางโรงสีประกาศราคารับซื้อข้าวเปลือกมะลิ ปี 59/60 ความชื้นไม่เกิน 15% (42 กรัม) ราคา 8.50 บาทต่อกิโลกรัม ข้าวเปลือกมะลิปี 59/60 ความชื้น 25% ราคา 6.50 บาทต่อกิโลกรัม รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า จากข้อมูลในเขตพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ มีโรงสีที่เปิดรับซื้อข้าวกระจายอยู่ตามอำเภอต่างๆ ทั้งจังหวัดกว่า 20 แห่ง ซึ่งทางจังหวัด โดยสำนักงานพาณิชย์ จะส่งเจ้าหน้าที่ออกสุ่มตรวจอย่างต่อเนื่อง โดยบรรยากาศซื้อขายข้าวตามโรงสีต่างๆ ช่วงนี้ค่อนข้างเงียบเหงา อาจเพราะอยู่ระหว่างเก็บเกี่ยวหรือตากข้าวเพื่อลดความชื้น และบางส่วนเตรียมเข้าร่วมโครงการสินเชื่อเพื่อชะลอการขายข้าวอย่างไรก็ตามเกษตรกรควรตากข้าวให้แห้งเพื่อลดความชื้น ก่อนจะนำเข้าร่วมโครงการฯ หรือนำไปขายตามโรงสี ซึ่งจะได้ราคาที่สูงและไม่ถูกหักความชื้น ขณะที่ พลตรี เดชอุดม นิชรัตน์ เปิดเผยว่า ในส่วนของมณฑลทหารบกที่ 26 ได้เปิดค่ายให้เกษตรกรที่ไม่มีพื้นที่ตากข้าว นำข้าวเปลือกไปตากในค่ายทหารได้ นอกจากนั้นยังได้ทำการสั่งซื้อข้าวสารจาก สกต.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นข้าวของชาวนาโดยตรง ไปหุงให้กับกำลังพลได้รับประทานอีกด้วย เป็นการช่วยเหลือชาวนาในพื้นที่ ขณะเดียวกันได้เชิญชวนให้ข้าราชการ และประชาชนที่ไม่ได้เพาะปลูกข้าว ช่วยกันซื้อข้าวสารของชาวนาบุรีรัมย์ไปบริโภค เพื่อเป็นการช่วยเหลือกระจายกำลังซื้อให้กับเกษตรกรอีกทางหนึ่ง ในส่วนของจังหวัดบุรีรัมย์ เบื้องต้นได้มีการจัดตั้ง จุดจำหน่าย “ข้าวสารร่วมใจช่วยเหลือเกษตรกร” จังหวัดบุรีรัมย์ จำนวน 5 จุด 1.หน้าสำนักงานพาณิชย์จังหวัดบุรีรัมย์ 2.สถานีน้ำมัน ปตท. สวายจีก ต.สวายจีก อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ 3. หน้าห้างสรรพสินค้าทวีกิจ จังหวัดบุรีรัมย์ 4. หน้าศูนย์รถยนต์ฟอร์ด อำเภอนางรอง และ 5. ศูนย์อาหารโรงพยาบาลบุรีรัมย์ อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ โดยจะทยอยเปิดจุดจำหน่ายอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งได้รับความสนใจจากประชาชนเป็นจำนวนมาก |
||||
|